ไฟล์_30

ข่าว

เหตุใดจึงต้องเลือกแท็บเล็ต Android Tap to pay สำหรับธุรกิจของคุณ?

การเพิ่มขึ้นของแท็บเล็ต NFC Tap-to-Pay: แนวโน้มและข้อดีที่กำหนดอนาคตของการชำระเงิน 

ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ได้กลายมาเป็นรากฐานสำคัญของระบบการชำระเงินสมัยใหม่ โซลูชันแตะเพื่อชำระเงิน โดยเฉพาะโซลูชันที่รวมอยู่ในแท็บเล็ต กำลังปฏิวัติวิธีที่ธุรกิจต่างๆ รับชำระเงิน โดยมอบความสะดวก ความปลอดภัย และความยืดหยุ่น มาสำรวจเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปและข้อได้เปรียบหลักที่ผลักดันการนำแท็บเล็ตที่แตะเพื่อชำระเงินด้วย NFC มาใช้กัน

วิวัฒนาการและแนวโน้มในปัจจุบัน

การเติบโตของระบบแตะเพื่อจ่ายสามารถสืบย้อนกลับไปได้ในปี 2020 ซึ่งถือเป็นปีสำคัญของการชำระเงินแบบไร้สัมผัส หลังการระบาดใหญ่ ทั้งผู้บริโภคและธุรกิจต่างให้ความสำคัญกับการโต้ตอบแบบไร้สัมผัสมากขึ้น โดยอุปกรณ์ที่รองรับ NFC รวมถึงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต กลายมาเป็นมาตรฐานทั้งในภูมิทัศน์ของผู้บริโภคและธุรกิจ

รายงานของธนาคารกลางสหรัฐให้หลักฐานที่น่าเชื่อถือ: ในปี 2018 การชำระเงินด้วยบัตรแบบไร้สัมผัส 700 ล้านรายการมีมูลค่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 1,600 ล้านรายการในปี 2019 และในปี 2020 การออกบัตรแบบไร้สัมผัสของธนาคารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจำนวนธุรกรรมการชำระเงินด้วยบัตรแบบไร้สัมผัสเพิ่มขึ้น 172.3% เป็น 3,700 ล้านรายการ ซึ่งเทียบเท่ากับ 110,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การใช้กระเป๋าสตางค์บนมือถือเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำให้ผู้บริโภคยอมรับวิธีการชำระเงินที่สะดวกนี้ได้มากขึ้น ในความเป็นจริง การสำรวจ NGPF ในปี 2021 เผยให้เห็นเหตุการณ์สำคัญที่สำคัญ: ชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งหนึ่งใช้การชำระเงินแบบไร้สัมผัส อัตราการใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นถึง 69% ในปี 2023 ตามรายงานของอุตสาหกรรม สมาร์ทโฟนใหม่ทั่วโลกมากกว่า 80% รองรับ NFC ทำให้ทำธุรกรรมแบบไร้สัมผัสได้อย่างราบรื่น แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Tap to Pay ของ Apple และ Google Pay ได้ทำให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น โดยช่วยให้ผู้ค้าเปลี่ยนอุปกรณ์ของตนให้กลายเป็นเครื่องชำระเงินได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าธุรกรรมการชำระเงินแบบไร้สัมผัสทั่วโลกคาดว่าจะเกิน **1.2 ล้านล้านดอลลาร์** ภายในปี 2026 โดยขับเคลื่อนโดยสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต NFC Tap to Pay

เครื่องชำระเงิน NFC สำหรับระบบแอนดรอยด์

ข้อดีหลักของแท็บเล็ต NFC Tap to Pay

ความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม

ความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการชำระเงิน ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี และสถาบันการเงินกำลังขยายขีดความสามารถของการชำระเงินแบบแตะเพื่อชำระเงิน ตัวอย่างเช่น การผสานรวมของ PayPal เข้ากับ Tap to Pay ของ Apple ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ หลายล้านแห่งสามารถรับชำระเงินโดยตรงผ่าน iPhone ได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบ POS เฉพาะทางอีกต่อไป ความร่วมมือดังกล่าวทำให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือชำระเงินขั้นสูงได้อย่างเป็นประชาธิปไตย ส่งเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจขนาดย่อมและผู้ประกอบการอิสระ

ความคุ้มทุนและการเข้าถึง

ต่างจากระบบ POS ทั่วไป แท็บเล็ตแบบแตะเพื่อชำระเงินช่วยลดต้นทุนฮาร์ดแวร์ล่วงหน้าและค่าเช่ารายเดือน ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ที่มีอยู่ (เช่น iPad หรือแท็บเล็ต Android) ในการประมวลผลการชำระเงิน ความเรียบง่ายของระบบนี้ ไม่ต้องใช้ PIN ลายเซ็น หรือบัตรจริง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ขายมือถือ ร้านค้าชั่วคราว และผู้ให้บริการที่ทำงานระหว่างเดินทาง

การรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

ความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ธุรกรรม NFC ใช้การเข้ารหัสและโทเค็นเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ในขณะที่การตรวจสอบข้อมูลทางชีวภาพ (เช่น การสแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือ) จะเพิ่มชั้นการป้องกันพิเศษ มาตรการเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการฉ้อโกง สร้างความไว้วางใจระหว่างลูกค้าและผู้ค้า

ประสบการณ์ที่ได้รับการปรับปรุง

ด้วยกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล (Apple Pay, Google Pay, Samsung Pay) ผู้ใช้สามารถทิ้งกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้านได้ การแตะเพื่อชำระเงินช่วยให้ทำธุรกรรมได้เกือบจะทันที ลดเวลาการรอคอยและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการชำระเงิน ลูกค้าสามารถชำระเงินด้วยบัตร กระเป๋าสตางค์ดิจิทัล (Apple Pay, Google Pay) หรือแม้แต่สมาร์ทวอทช์ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย สำหรับธุรกิจ การทำเช่นนี้จะส่งผลให้มีอัตราความพึงพอใจที่สูงขึ้นและลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ และ SMEs จะได้รับประโยชน์จากต้นทุนค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ลดลง เนื่องจากการแตะเพื่อชำระเงินทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์ POS เฉพาะ เงินจะถูกฝากทันที ช่วยปรับปรุงกระแสเงินสดและประสิทธิภาพการดำเนินงาน

เส้นทางในอนาคต

การขยายตัวเกินขอบเขตการขายปลีก

แท็บเล็ต NFC แบบแตะเพื่อชำระเงินนั้นสามารถปรับให้เข้ากับรูปแบบธุรกิจต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะใช้ในร้านกาแฟที่มีลูกค้าพลุกพล่าน รถขายอาหาร หรือระบบดูแลสุขภาพ (การชำระเงินผู้ป่วยแบบไม่ต้องสัมผัส) และระบบขนส่งสาธารณะ (การชำระค่าโดยสารผ่านสมาร์ทโฟน) แท็บเล็ตเหล่านี้ก็มีความยืดหยุ่นในการประมวลผลการชำระเงินได้ทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น เมืองต่างๆ ทั่วโลกกำลังผสานรวมการแตะเพื่อชำระเงินเข้ากับระบบรถไฟใต้ดิน ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาตั๋วจริง

ร้านอาหารระบบแอนดรอยด์แตะเพื่อชำระเงินแท็บเล็ต POS

การเข้าถึงทั่วโลก

เทคโนโลยี NFC ได้รับการกำหนดมาตรฐานทั่วโลก ทำให้สามารถทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้ ในภูมิภาคต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย โซลูชันแตะเพื่อชำระเงินได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางแล้ว ตลาดเกิดใหม่ในละตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังนำเทคโนโลยีแตะเพื่อชำระเงินมาใช้ ความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการชำระเงินและผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จะช่วยเร่งการเปิดตัวเทคโนโลยีนี้ทั่วโลก

ผลักดันความยั่งยืน

การลดการพึ่งพาเงินสดและบัตรพลาสติกสอดคล้องกับเป้าหมายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ Tap to Pay เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นสำหรับทั้งผู้บริโภคและธุรกิจ

แท็บเล็ตบริจาคการกุศล

อนาคตของ NFC แตะเพื่อชำระเงิน

เนื่องจากเทคโนโลยี NFC ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจึงคาดหวังการบูรณาการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับเทรนด์ใหม่ ๆ เช่น AI และ IoT ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์อาจเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์การชำระเงิน ในขณะที่อุปกรณ์ IoT อาจเปิดใช้งานการแตะเพื่อชำระเงินในสภาพแวดล้อมที่ไม่ธรรมดา (เช่น เครื่องจำหน่ายสินค้าอัจฉริยะ)

แท็บเล็ตที่รองรับการแตะเพื่อชำระเงินด้วย NFC ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบการชำระเงิน โดยผสานความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความสามารถในการปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของเศรษฐกิจดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สำหรับธุรกิจที่ต้องการรักษาความสามารถในการแข่งขัน การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ไม่ใช่แค่ทางเลือกเท่านั้น แต่เป็นสิ่งจำเป็น

พร้อมหรือยังที่จะเตรียมระบบการชำระเงินของคุณให้พร้อมสำหรับอนาคต สำรวจว่าการแตะเพื่อชำระเงินด้วย NFC จะช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจของคุณได้อย่างไรในปัจจุบัน


เวลาโพสต์ : 18 มี.ค. 2568